เมนู

ภิกษุณี. เพราะเมื่อก่อน พวกดิฉันมิได้เห็นข้อนั้นดีด้วยปัญญาชอบ
ตามความเป็นจริงว่า อายตนะภายนอก 6 ของเรา ไม่เที่ยง แม้เพราะเหตุนี้
เจ้าข้า.
น. ดูก่อนน้องหญิงทั้งหลาย ถูกละๆ พระอริยสาวกผู้เห็นเรื่องนี้ด้วย
ปัญญาชอบ ตามเป็นจริง ย่อมมีความเห็นอย่างนี้แล.

ว่าด้วยกองแห่งวิญญาณ 6


[785] น. ดูก่อนน้องหญิงทั้งหลาย พวกท่านจะสำคัญความข้อนั้น
เป็นไฉน จักษุวิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง.
ภิกษุณี. ไม่เที่ยง เจ้าข้า.
น. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุข.
ภิกษุณี. เป็นทุกข์ เจ้าข้า.
น. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควร
หรือที่จะตามเห็นสิ่งนั้น ว่า นั่นของเรา นั่นเรา นั่นอัตตาของเรา.
ภิกษุณี. ไม่ควรเลย เจ้าข้า.
น. น้องหญิงทั้งหลาย พวกท่านจะสำคัญความข้อนั้น เป็นไฉน โสต
วิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง.
ภิกษุณี. ไม่เที่ยง เจ้าข้า.
น. ฆานวิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง.
ภิกษุณี. ไม่เที่ยง เจ้าข้า.
น. ชิวหาวิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง.
ภิกษุณี. ไม่เที่ยง เจ้าข้า.
น. กายวิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง.

ภิกษุณี. ไม่เที่ยง เจ้าข้า.
น. มโนวิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง.
ภิกษุณี. ไม่เที่ยง เจ้าข้า.
น. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุข.
ภิกษุณี. เป็นทุกข์ เจ้าข้า.
น. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควร
หรือที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเรา นั่นอัตตาของเรา
ภิกษุณี. ไม่ควรเลย เจ้าข้า.
น. นั่นเพราะเหตุไร.
ภิกษุณี. เพราะเมื่อก่อน พวกดิฉันมิได้เห็นข้อนั้นดีด้วยปัญญาชอบ
ตามความเป็นจริงว่า กองวิญญาณ 6 ของเรา ไม่เที่ยง แม้เพราะเหตุนี้
เจ้าข้า.
น. น้องหญิงทั้งหลาย ถูกละ ๆ พระอริยสาวกผู้เห็นเรื่องนี้ด้วยปัญญา
ชอบ ตามความเป็นจริง ย่อมมีความเห็นอย่างนี้แล.
[786] น้องหญิงทั้งหลาย เปรียบเหมือนประทีปน้ำมันกำลังติดไฟ
อยู่ มีน้ำมันก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็นธรรนดา ไส้ก็ไม่เที่ยง แปรปรวน
ไปเป็นธรรมดา เปลวไฟก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็นธรรมดา แสงสว่าง
ก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็นธรรมดา น้องหญิงทั้งหลาย ผู้ใดกล่าวอย่างนี้ว่า
ประทีปน้ำมันที่กำลังติดไฟอยู่โน้น มีน้ำมันก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็นธรรมดา
ไส้ก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็นธรรมดา เปลวไฟก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็น
ธรรมดา แต่ว่าแสงสว่างของประทีป นั้นแล เที่ยง ยั่งยืน เป็นไปติดต่อ ไม่มี
ความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ผู้ที่กล่าวนั้น ชื่อว่า พึงกล่าวชอบหรือหนอแล.

ภิกษุณี. หามิได้ เจ้าข้า.
น. นั่นเพราะอะไร.
ภิกษุณี. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เพราะประทีปน้ำมัน ที่กำลังติดไฟอยู่โน้น
มีนำมันก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็นธรรมดา ไส้ก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็น
ธรรมดา เปลวไฟก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็นธรรมดา แสงสว่างของประทีป
นั้นก็ต้องไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็นธรรมดา เช่นกัน.
[787] น. น้องหญิงทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล บุคคลใดพึง
กล่าวอย่างนี้ว่า อายตนะภายใน 6 ของเรา ไม่เที่ยง แต่เราอาศัยอายตนะ
ภายในเสวยเวทนาใด เป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม มิใช่ทุกข์มิใช่สุขก็ตาม
เวทนานั้น เที่ยง ยั่งยืน เป็นไปติดต่อ ไม่มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
บุคคลผู้กล่าวนั้น ชื่อว่า กล่าวชอบหรือหนอแล.
ภิกษุณี. หามิได้ เจ้าข้า.
น. นั่นเพราะเหตุไร.
ภิกษุณี. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เพราะเวทนาที่เกิดแต่อายตนะภายในนั้น ๆ
อาศัยปัจจัยที่เกิดแต่อายตนะภายในนั้น ๆ แล้ว จึงเกิดขึ้นได้ เพราะปัจจัยที่เกิด
แต่อายตนะภายในนั้น ๆ ดับ เวทนาที่เกิดแต่อายตนะภายในนั้น ๆ จึงดับไป.
น. น้องหญิงทั้งหลายถูกละ ๆ พระอริยสาวกผู้เห็นเรื่องนี้ด้วยปัญญา
ชอบ ตามความเป็นจริง ย่อมมีความเห็นอย่างนี้แล.
[788] น้องหญิงทั้งหลาย เปรียบเหมือนต้นไม้ใหญ่มีแก่นตั้งอยู่
มีรากก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็นธรรนดา ลำต้นก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็น
ธรรมดา กิ่งและใบก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็นธรรมดา เงาก็ไม่เที่ยง แปร
ปรวนไปเป็นธรรมดา น้องหญิงทั้งหลาย ผู้ใดพึงกล่าวอย่างนี้ว่า นี้ไม้ใหญ่
มีแก่นตั้งอยู่โน้น มีรากก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็นธรรมดา ลำนี้ก็ไม่เที่ยง

แปรปรวนไปเป็นธรรมดา กิ่งและใบก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็นธรรมดา
แต่ว่าเงาของต้นไม้นั้นแล เที่ยง ยั่งยืน เป็นไปติดต่อ ไม่มีความแปรปรวน
ไปเป็นธรรมดา ผู้ที่กล่าวนั้น ชื่อว่า พึงกล่าวชอบหรือหนอแล.
ภิกษุณี. หามิได้ เจ้าข้า.
น. นั่นเพราะเหตุไร
ภิกษุณี. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เพราะต้นไม้ใหญ่ มีแก่นตั้งอยู่โน้น
มีรากก็ไม่เทียง แปรปรวนไปเป็นธรรมดา ลำต้นก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็น
ธรรมดา กิ่งและใบก็ไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็นธรรมดา เงาของต้นไม้นั้น
ก็ต้องไม่เที่ยง แปรปรวนไปเป็นธรรมดาเช่นกัน.

ว่าด้วยอายตนะภายนอก 6


[789] น. น้องหญิงทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล บุคคลใด
พึงกล่าวอย่างนี้ว่า อายตนะภายนอก 6 ของเราไม่เที่ยง แต่เราอาศัยอายตนะ
ภายนอกเสวยเวทนาใด เป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม มิใช่ทุกข์มิใช่สุขก็ตาม
เวทนานั้น เที่ยง ยั่งยืน เป็นไปติดต่อ ไม่มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
บุคคลผู้กล่าวนั้น ชื่อว่า กล่าวชอบหรือหนอแล.
ภิกษุณี. หามิได้ เจ้าข้า.
น. นั่นเพราะเหตุไร.
ภิกษุณี. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เพราะเวทนาที่เกิดแต่อายตนะภายนอก
นั้น ๆ อาศัยปัจจัยที่เกิดแต่อายตนะภายนอกนั้น ๆ แล้ว จึงเกิดขึ้นได้ เพราะ
ปัจจัยที่เกิดแต่อายตนะภายนอกนั้น ๆ ดับ เวทนาที่เกิดแต่อายตนะภายนอกนั้นๆ
จึงดับไป.